วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

Koh Samet


แหล่งท่องเที่ยวที่เกาะเสม็ด

แหล่งท่องเที่ยว

อ่าวน้อยหน่า
บริเวณอ่าวน้อยหน่านี้ เหมาะสำหรับผู้ที่รักความเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว ถึงอ่าวน้อยหน่า จะอยู่ใกล้ หาดทรายแก้ว แต่ความพลุกพล่านเรียกว่าต่างกัน เหมือนอยู่คนละเกาะ ใครที่ชอบความเงียบสงบ อ่านหนังสือ อาบแสงแดดเคล้าน้ำทะเล บริเวณนี้มีหาดทรายที่สะอาดพอที่จะเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ

อ่าวกลาง
บริเวณอ่าวกลางนี้ เป็นที่ตั้งของชุมชนหมู่บ้าน เกาะเสม็ด และเป็นที่ตั้งของท่าเรือ บริเวณนี้ ไม่ค่อยจะมีหาดทรายสวยๆ ให้ ลงเล่นน้ำมากนัก แต่เหมาะที่จะมาฝากท้องทานอาหาร กับร้านอาหาร บริเวณท่าเรือ มีอยู่หลายร้านให้เลือก สนนราคา เรียก ว่า ถูกที่สุดบน เกาะเสม็ด ก็ว่าได้

อ่าวป่าช้า
พื้นที่บริเวณอ่าวป่าช้านี้ แต่ก่อนราวๆ 40-50 ปี ที่แล้วเป็นสถานที่ฝังศพของชาว เกาะเสม็ด แต่ในปัจจุบันนี้ บริเวณนี้ไม่มีการฝังศพอีกแล้วส่วนป่าช้าเก่าที่ว่านี้ ได้รับการฌาปนกิจเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี พื้นที่บริเวณนี้ ก็ไม่มีหาดทรายสวยๆ ให้เล่น จะมีก็แต่แนวโขดหิน ให้ปีนป่าย หรือถ้าใครชอบ ตกปลา โขดหิน บริเวณนี้ก็เหมาะทีเดียว สำหรับนักตกปลาทั้งหลาย ถ้า ชอบแค้มปิ้งที่บริเวณนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณกล้าพอหรือเปล่า แต่ถ้าให้ดี ไปพักที่อ่าวลูกโยนจะเหมาะกว่า

อ่าวลูกโยน
เป็นอีกอ่าวหนึ่งที่มีหาดทรายให้เล่นน้ำ ถึงไม่กว้างมากนัก ที่หาดทรายบริเวณอ่าวลูกโยน ค่อนข้างจะสงบเงียบไม่พลุก พล่านนักท่องเที่ยวบางกลุ่มเลยดูจะชอบมาพัก ที่อ่าวลูกโยนกัน ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบความสงบ อ่าวลูกโยน ก็เป็น อีกแห่งหนึ่งที่ขอแนะนำ

แหลมใหญ่
บริเวณนี้เหมาะ ที่จะชมพระอาทิตย์ขึ้นมากที่สุด เพราะเป็นแหลมหัวเกาะ และมีเนินเขาเตี้ยๆที่พอจะอาศัยเป็นที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นได้หรือจะเลือกวิวถ่ายรูปสวยๆ บริเวณโขดหินก็เหมาะดี

หาดทรายแก้ว
ชายหาดที่คุ้นหู ที่สุดของนักท่องเที่ยว ที่มาถึง เกาะเสม็ด ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ที่ชอบความหลากหลาย หาดทรายแก้ว เป็นอีกหนึ่งหาดที่คุณจะชอบ เพราะหาดนี้ไม่เคยหลับ เรียกว่า ตอนเช้าเล่นน้ำทะเล กลางวันอาบแดด ตอนเย็นชมพระอา ทิตย์ตก พอค่ำหน่อยก็ดื่มกินอาหาร หรือจะมีแอลกอฮอล์นิดหน่อย เคล้าแสงจันทร์ก็ดูไม่เลว มีกิจกรรมให้ทำ ทั้งวันที่หาด ทรายแก้ว เหมาะสำหรับคนขี้เหงา และชอบความพลุกพล่าน ของผู้คน ที่หาดนี้ เป็นแหล่งรวมของเครื่องเล่นกีฬาทางน้ำ ทุกประเภท ที่มีบนเกาะทั้งเจ็ทสกี บานาน่าโบต เรือใบ ฯลฯ เอาเป็นว่า หาดนี้ หาดเดียวกับวันพักผ่อนหรือ วันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ทำให้คุณลืมเวลาได้ไม่ยาก

ข้อแนะนำ สำหรับนักท่องเที่ยว ที่รักความสะดวกสบาย ที่หาดทรายแก้ว มีบ้านพักหลายประเภทให้เลือก ในสนนราคาที่ขึ้นอยู่กับว่า มีออฟชั่นอย่างแอร์ พัดลม ตู้เย็น มีให้เพียบพร้อมขนาดไหน

อ่าวไผ่
อ่าวไผ่ มีชายหาด ที่ติดกับหาดทรายแก้ว คั่นกันแค่โขดหิน ไม่ใหญ่นัก นักท่องเที่ยวส่วนมาก จะเหมาเดินเที่ยว หาดทราย แก้ว ไล่ไปจน
ถึงอ่าวไผ่ แล้วเดินย้อนกลับมา ใช้เวลาไม่มากนัก ที่อ่าวไผ่ บริเวณโขดหิน มีวิวที่สวยงาม เหมาะที่จะอาบแดด ถ่ายรูป ฯลฯ หาดทราย
บริเวณอ่าวไผ่ ก็เป็นอีกแห่งหนึ่ง ที่จะเห็นนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ มานอนอาบแดดกัน ถ้าหาที่ว่าง ที่หาดทรายแก้วไม่ได้ อ่าวไผ่นี่แหละ บรรยากาศคล้ายๆ กัน ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ สำหรับนักท่องเที่ยว อย่างเราๆ
ข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว ที่มาเล่นน้ำที่อ่าวไผ่ จะมีจุดน้ำวนอยู่ ไม่ควรลงเล่นน้ำที่บริเวณนั้น (สังเกตได้จากธงสีแดง ที่ปักอยู่)

อ่าวพุทรา
อ่าวเล็กๆ ที่เงียบสงบ ไม่ค่อยจะมีนักท่องเที่ยว มาส่งเสียงรบกวนสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่าหาดนี้ เป็นหาดเล็กๆ เดิน แป๊บเดียวก็ทั่ว นักท่องเที่ยว ชาวไทย เลยไม่ค่อยจะสนใจ แต่สำหรับชาวต่างชาติแล้ว อ่าวพุทรา เป็นเหมือนกับที่พักผ่อน โดยแท้ ถ้ามาที่อ่าวนี้ ภาพที่
เห็นจนชินตาคือ นักท่องเที่ยว นั่งบ้าง นอนบ้าง อ่านหนังสือ อาบแดด จิบกาแฟ เหมือนกับไม่ ได้มาเที่ยวทะเลอย่างนั้นแหละ

อ่าวทับทิม
อ่าวเล็กๆ ที่มีพื้นที่ติดกันหรือ จะเรียกว่าเป็นพื้นที่เดียวกับอ่าวพุทราก็ว่าได้ รวมๆ แล้ว ก็เป็นอ่าวเล็กๆ ที่เงียบสงบน่าพัก สำ หรับหาดทรายและสถานที่เล่นน้ำทะเลแล้ว ที่อ่าวทับทิม เรียกว่าสะอาดพอสมควร ที่อ่าวทับทิม เป็นอีกอ่าวหนึ่งที่น่าพัก ผ่อนในวันหยุด

อ่าวนวล
อ่าวเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่สำหรับนักท่องเที่ยว ที่รักความสงบเงียบ อย่างแท้จริงแล้ว อ่าวนวล เป็นอีกอ่าวหนึ่งที่ ขอแนะนำ มีนัก
ท่องเที่ยวไม่มากนัก ที่ชอบมาพักผ่อนที่อ่าวนี้ แต่ถ้าใครมาพักผ่อนที่อ่าวนี้ ก็บอกได้เลยว่า เป็นนักท่องเที่ยว ที่มากินลม ชมความเงียบ
โดยแท้ สิ่งอำนวยความสะดวก ที่อ่าวนวล มีไม่มาก บังกาโล มีเพียงแห่งเดียว ที่เปิดรองรับนัก ท่องเที่ยว

อ่าวช่อ/อ่าวทานตะวัน
ที่รวมสองอ่าวนี้ เป็นอ่าวเดียวกัน ก็เพราะว่าอ่าวนี้ เดิมชื่อว่า อ่าวช่อ แต่ต่อมามีเรียกกันหลายชื่อ ทำให้เกิดความสับสน กับนักท่องเที่ยว พอสมควร ถ้าดูจริงๆ แล้ว อ่าวช่อ และอ่าวทานตะวัน ก็มีโค้งอ่าวที่ติดต่อกัน แต่เรียกชื่อกันตาม รีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ ในแต่ละตำแหน่งเท่านั้นโดยรวมอ่าวช่อ เป็นอ่าวที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ผู้คน ไม่พลุกพล่าน หาดทรายขาว และสวยงาม ลงตัวดี กับวันพักผ่อนของคุณ

อ่าววงเดือน
อ่าวที่คุ้นหูนักท่องเที่ยวอีกอ่าวหนึ่ง เพราะเรือโดยสารประจำทาง ที่มาจากท่าศาลา จะมาส่งนักท่องเที่ยว ที่อ่าวนี้เป็นประจำ ถ้าจะบอกว่าเป็นป้ายสุดท้าย ของเรือโดยสารก็ไม่ผิดนักอ่าววงเดือน คึกคักพอๆ กับหาดทรายขาว แต่ที่อ่าววงเดือน คุณสามารถเลือกได้หลายบรรยากาศถ้าต้องการความสงบเงียบก็ต้องทางด้านหัวอ่าว ส่วนคนที่รักความคึกคัก ต้องเลือกกลาวอ่าว ถ้าชอบนั่งกินบรรยากาศ ให้คุณเลือกตามความต้องการอย่างที่บอก

อ่าวแสงเทียน
อ่าวแสงเทียน เป็นอ่าวที่ เงียบสงบ ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน นักท่องเที่ยวที่มาพักอ่าวนี้ โดยมาก เน้นความสงบ เป็นส่วนใหญ่ หาดทราย
ของอ่าวแสงเทียน ถ้าจะว่าไปแล้ว สะอาดกว่าด้าวหัวเกาะเสียด้วยซ้ำไป ก็เป็นเพราะนักท่องเที่ยวที่มาพักที่หาดนี้น้อยกว่าทำให้ธรรมชาติบริเวณนี้ ยังคงรักษาความสวยงาม ตามธรรมชาติได้ ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ประเภทกินลมชมวิว นอนนับดาวแล้วละก็ อ่าวแสงเทียน เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่คุณไม่ควรพลาด ที่จะมาพักผ่อน

อ่าวหวาย
ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ยิ่งไกลจากหัวเกาะ และนักท่องเที่ยวน้อยลงเท่าไหร่ ธรรมชาติ ก็ยังคงความสวยงามแบบเดิมไว้มากเท่านั้น อ่าวหวาย ก็เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ยังคงความสวยงามแบบเดิมไว้ที่อ่าวหวาย เหมาะกับนักท่องเที่ยว ที่รักความสงบ และเป็นส่วนตัว ที่อ่าวหวาย มี รีสอร์ท เพียงแห่งเดียว ดูแล้วค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว และสงบพอสมควร เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่ขอแนะนำ

อ่าวกิ่วนอก
อ่าวที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการสัมผัสธรรมชาติ อย่างแท้จริง ที่นี่ หาดทรายขาวเสียจนน่าอิจฉาจากจุดนี้สามารถมองเห็นเกาะหินขาวได้
อย่างชัดเจน
ที่อ่าวกิ่วหน้านอก นี้ เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ โดยใช้เวลาเดินไม่นาน ระยะทางประมาณ 100เมตร ก็ จะถึง อ่าวกิ่วหน้าใน ซึ่งเป็นจุดชมวิว ที่หลายคนมองข้ามไป เนื่องจากด้านอ่าวกิ่วหน้าใน เป็นแนวโขดหิน สถานที่ท่องเที่ยว จึงมีไม่มาก แต่เหมาะจะเป็นจุดชมวิว ดื่มกินบรรยากาศ ของ เกาะเสม็ด ที่ดีอีกแห่งหนึ่ง

อ่าวกะรัง
อ่าวที่สงบเงียบ และไม่มีผู้คนพลุกพล่านอย่างแท้จริง อ่าวนี้มีหาดทรายเล็กๆ พอที่จะลงเล่นน้ำ และชมประการังได้ จุดชมวิวบริเวณแหลมกุด ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ถ้าคุณมาท่องเที่ยวที่ เกาะเสม็ด โดยเจาะจงมาพักที่อ่าวกะรัง (ปะการัง แค้มปิ้ง) ในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. คุณจะได้พบกับนัก ตกปลา มาที่นี่กันมากสักหน่อย เพราะว่าช่วงนั้น จะเป็นช่วงที่ปลา อินทรีย์ จะมีมาก บริเวณอ่าวกะรัง โดยเฉพาะหมายตกปลาที่คุ้นหู นักตกปลากันทั่วไปคือ ร่องจันทร์ และสันฉลาม ซึ่งเป็น เกาะหินเล็กๆ ที่สามารถมองเห็นจากอ่าวกะรังได้

อ่าวเตย
สุดท้ายปลาย เกาะเสม็ด บริเวณนี้ เป็นโขดหินเสียเป็นส่วนใหญ่ เหมาะเป็นสถานที่ ตกปลา และกินลมชมวิว มากกว่า จุดนี้ สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้ โดยมีโขดหินเป็นโฟร์กราวด์

แหลมเรือแตก
จุดชมวิวที่ไม่เหมาะลงเล่นน้ำอีกเช่นกัน เพราะพื้นที่นี้เป็นหน้าผาชัน และเป็นแนวโขดหิน เหมาะจะใช้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ ตกและทอดสายตาไปสู่ฝั่งแผ่นดินมากกว่า ข้อดีของจุดนี้คือ มีลมโกรกทั้งวัน ถึงจะไม่มีหาดทรายให้เล่น แต่วิวที่จุดนี้ก็สวย ไม่น้อย

อ่าวพร้าว
จุดชมพระอาทิตย์ที่ติดปากนักท่องเที่ยว จากปากต่อปากของนักท่องเที่ยว ที่อ่าวพร้าว เป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยที่สุดบน เกาะเสม็ด การเดินทางจากท่าศาลา ใช้เวลาไม่มากนัก อ่าวพร้าวจึงเป็นอีกแห่งหนึ่ง ที่เราจะเห็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ มาพักกันมากที่อ่าวนี้

อ่าวขาม
เป็นอ่าวหิน ที่ไม่ค่อยมีคนนิยมไปเที่ยว กันมากนัก นอกจากจะนั่งเรือผ่านมาขึ้นทางอ่าวพร้าว ลักษณะภูมิประเทศ ของอ่าวขาม คล้ายๆกับแหลมเรือแตก

หมู่เกาะกุฎี
จากทางบ้านเพ ก่อนถึง เกาะเสม็ด ทางด้านซ้ายมือ จะเห็นหมู่เกาะเล็กๆ 3-4 เกาะอยู่ นั่นคือ หมู่เกาะกุฎี ซึ่งประกอบไปด้วย เกาะกุฎี เกาะค้างคาว เกาะขาม เกาะกรวย เกาะปลาตีน

เกาะกุฎี
เกาะที่สวยงามอีกเกาะหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยว ไปเยือนปีละไม่มาก อาจจะเป็นเพราะว่า นักท่องเที่ยว ไม่ค่อยที่จะคุ้นหูก็ว่าได้ ธรรมชาติ รอบเกาะกุฎี เรียกได้ว่าสวยงาม และคงเดิมมาก แหล่งท่องเที่ยวบน เกาะกุฎี ก็มีหลายจุด ที่เด่นๆ ได้แก่ หาดสิน สมุทร อ่าวหูกวาง ผานิลมังกร ถ้ำฤๅษี จากจุดชมวิว ที่ เกาะกุฎี สามารถมองเห็นเกาะค้างคาวได้อย่างชัดเจนที่ เกาะกุฎี มีหาดทรายขาว ยาวพอสมควร ในนักท่องเที่ยว ได้เล่นกัน น้ำทะเลที่หาดนี้ เรียกว่า มองเห็นพื้นทราย และแนว ประการังได้
อย่างเต็มตา

เกาะค้างคาว
เกาะเล็กๆ ข้างเกาะกุฎี มีหาดทรายเล็กๆ ไม่เหมาะที่จะไปพัก ต้องนำเรือไป จึงจะขึ้นเกาะได้

เกาะกรวย - เกาะขาม
เกาะกรวย และเกาะขาม เป็นเกาะเล็กๆ ที่สามารถเดินถึงกันได้ โดยมีสันทรายเล็กๆ เชื่อมต่อกันระหว่างเกาะทั้งสอง เกาะ ขาม เหมาะที่จะพักผ่อนแค้มปิ้งมากกว่า เกาะกรวย เนื่องจาก เกาะขาม มีหาดทรายขาว และแนวต้นไม้ที่พอจะตั้งแคมป์ได้ อย่างไม่ลำบากมากนัก ติดขัดอย่างเดียว ก็คือ เรื่องน้ำที่ต้องเตรียมไปเอง

เกาะปลาตีน
เกาะยาว ที่อยู่ถัดจาก เกาะกรวย และ เกาะขาม เป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ และนักท่องเที่ยวไม่นิยมมาเที่ยวเกาะนี้กัน เนื่องจากไม่มี
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เหมาะจะเป็นที่ปลีกวิเวกมากกว่า

เกาะทะลุ
เกาะที่ขึ้นชื่ออีกเกาะหนึ่ง ของ หมู่เกาะเสม็ด เกาะนี้มีธรรมชาติ หาดทรายที่สวยงาม ถึงหาดทรายจะสั้น แต่ก็สวยพอที่จะดึง ดูดนักท่อง
เที่ยว จากบนฝั่ง และที่ เกาะเสม็ด มาเยือนไม่ได้ขาด

หมายเหตุ การท่องเที่ยวตามเกาะ ต้องเหมาเรือ ให้ไปส่ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 2,000 บาท

เกาะเสม็ด(Koh-Samet)



เกาะเสม็ด(Koh-Samet)



เกาะเสม็ด, เสม็ด หรือ เกาะแก้วพิสดาร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อของระยอง ที่ได้รับ ความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศ ตั้งอยู่ตำบลเพ อำเภอเมือง จ.ระยองอยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ มีลักษณะเป็นเกาะรูปสามเหลี่ยม ส่วนฐานของเกาะอยู่ด้านทิศเหนือ ซึ่งหันเข้าสู่ฝั่งบ้านเพ มีภูเขาสลับซับซ้อนกันอยู่ 2-3 ลูก มีที่ราบอยู่ตามริมฝั่งชายหาด ส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือและตะวันออก เหตุที่มีชื่อว่า “ เกาะเสม็ด” เพราะเกาะนี้มีต้นเสม็ดขาว และเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก ซึ่งในอดีตชาวบ้านนำมาใช้ทำไต้จุดไฟ บนเกาะเสม็ดไม่มีแม่น้ำลำคลอง ประมาณ 80% ของพื้นที่ เป็นภูเขาและป่าไม้เบญจพรรณ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน ช่วงเดือนพฤษภาคมมีมรสุมและคลื่นลมจัดมาก เดือนสิงหาคมมีฝนตกชุก.เกาะเสม็ด ห่างจากฝั่งบ้านเพ ประมาณการเดินทางไปเกาะเสม็ดนั้น ไม่ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อน นักท่องเที่ยวควรสำรองที่พักไว้ล่วงหน้า มิฉะนั้นคงเสียเวลากะเตงกระเป๋าไปหาห้องพักเหนื่อยแน่ แต่ละหาดอยู่ห่างไกลกันประมาณ6 กม.
ใช้เวลานั่งเรือไปยังเกาะเสม็ดประมาณ 30 นาทีถึง ท่าเรือหน้าด่าน บนเกาะเสม็ด จากนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางโดยรถสองแถว หรือ เช่ามอเตอร์ไซค์ ไปแต่หาด เช่นอ่าวน้อยหน่าอ่าวลูกโยนหาดทรายแก้วอ่าวไผ่ อ่าวทับทิม อ่าวช่อ อ่าวตะวันอ่าววงเดือนอ่าวเทียนอ่าวหวายอ่าวกิ่วอ่าวกะรังซึ่งอยู่ปลายสุด และที่พลาดไม่ได้กับอ่าวพร้าว เป็นเพียงอ่าวเดียวที่อยู่ตะวันตกของเกาะเสม็ด สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้ที่ อ่าวพร้าวแห่งนี้.

เดินทางไปเกาะเสม็ด

เดินทางไป เกาะเสม็ด ระยอง

เกาะเสม็ด เชื่อกันว่าคือเกาะแก้วพิสดาร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อของระยอง ที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทย และชาวต่างประเทศ ตั้งอยู่ตำบลเพ อำเภอเมือง อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่. เกาะเสม็ด มีลักษณะเป็นเกาะรูปสามเหลี่ยม ส่วนฐานของเกาะอยู่ด้านทิศเหนือ ซึ่งหันเข้าสู่ฝั่งบ้านเพ มีภูเขาสลับซับซ้อนกันอยู่ 2-3 ลูก มีที่ราบอยู่ตามริมฝั่งชายหาด ส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือ และตะวันออก เหตุที่มีชื่อว่า "เกาะเสม็ด" เพราะเกาะนี้มีต้นเสม็ดขาว และเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก.

การเดินทาง เกาะเสม็ด

รถยนต์ สามารถใช้เส้นทางได้หลายเส้นทาง ได้แก่
เส้นทางแรก ทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) จากกรุงเทพฯ ผ่านอำเภอบางปู อำเภอบางปะกง จังหวัดชลบุรี บางแสน ศรีราชา พัทยา หาดจอมเทียน สัตหีบ อำเภอบ้างฉาง ไปจนถึงอำเภอเมือง จังหวัดระยอง รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร

เส้นทางที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 34 (ถนนบางนา-ตราด) เริ่มจากตรงจุดสิ้นสุดทางด่วนด่านเฉลิมนคร อำเภอบางนา ผ่านอำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 3 ที่กิโลเมตรที่ 70 อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากนั้นก็จะผ่านเส้นทางเดียวกันกับเส้นทางที่ 1 รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร

เส้นทางที่ 3 ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส 36) จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 2 จนถึงกิโลเมตรที่ 140 อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 36 จากนั้นให้เดินทางต่อไปยังจังหวัดระยองด้วยระยะทาง 70 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร

เส้นทางที่ 4 ทางหลวงหมายเลข 344 (ถนนสายบ้านบึง-แกลง) เริ่มจากจังหวัดชลบุรี ผ่านอำเภอบ้านบึง หนองใหญ่ อำเภอวังจันทร์ และสิ้นสุดที่อำเภอแกลง เป็นระยะทาง 100 กิโลเมตร (กรุงเทพฯ-ชลบุรี 80 กิโลเมตร) เส้นทางเส้นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังแหล่งที่องเที่ยวในเขตอำเภอแกลง หรือเดินทางไปยังจังหวัดจันทบุรี หรือจังหวัดตราด และหากต้องการที่จะเดินทางเข้าสู่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3 โดยย้อนกลับมาอีกประมาณ 42 กิโลเมตร

เส้นทางที่ 5 ทางหลวงหมายเลข 7 (สายมอเตอร์เวย์) เริ่มจากถนนพัฒนาการ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ไปสิ้นสุดที่ จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 75 กิโลเมตร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 เป็นระยะทาง 100 กิโลเมตร จนถึงอำเภอเมือง จังหวัดระยอง รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 175 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง จาก สถานีขนส่งสายตะวันออก ( เอกมัย) มีรถประจำทางไปยังตัวจังหวัดระยอง และอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดหลายเส้นทาง ได้แก่
สายกรุงเทพฯ - ระยอง, บ้านเพ, แกลง, แหลมแม่พิมพ์, มาบตาพุด, ประแสร์ เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2391 2504
สถานีเดินรถโดยสาร จังหวัดระยอง
โทร. 0 3861 137 9
และมีบริษัทเดินรถเอกชนที่วิ่งบริการ เส้นทางสายด่วน มอเตอร์เวย์ ได้แก่ บริษัท ระยอง ทัวร์
โทร. 0 2712 3662
สาขาระยอง โทร. 0 38 86 1 354-5
จาก สถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถ ธรรมดา และรถปรับอากาศชั้น 2 หมอชิต- ระยอง ออกทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 04.30-16.30 น.
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2936 2841
ส่วนรถปรับอากาศสายด่วน วิ่งเส้นบางนา-ตราด ออกตั้งแต่เวลา 04.30-21.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ระยองทัวร์ กรุงเทพฯ โทร. 0 2 936 1216 สาขาระยอง โทร. 0 3886 1354-5

การเดินทางจากบ้านเพไป เกาะเสม็ด

จากท่าเรือบ้านเพ มีเรือโดยสารบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (รอผู้โดยสารอย่างน้อยประมาณ 20 คนจึงออกเรือ) ค่าโดยสารระหว่างบ้านเพ-หาดทรายแก้ว (ท่าเรือหน้าด่าน)
ไป-กลับ 100 บาท เรือเมล์ 8.00 - 16.00 น.ใช้ เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที

เรือ speed boat
ราคาประมาณ 1,500 - 2,600 บาทต่อเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมงขึ่นอยู่กับจำนวนคนและขนาดของเรือ (รายละเอียดด้านล่าง) จากบ้านเพไปหาดต่างๆ ถ้าท่านพลาดเรือที่ไปยังอ่าวๆต่างๆที่ออกเป็นเวลาท่านสามารถนั่งเรือมาลงท่าเรือหน้าด่าน ค่าโดยสารประมาณ 50 บาทต่อคนใช้เวลาประมาณ 40 นาที ที่นี่มีบริการรถสองแถวและมอเตอร์ไซต์ ไปยังหาดต่างๆ ราคาขึ้นอยู่ระยะทางไปหาดนั้นๆ จากบ้านเพ-อ่าววงเดือน และะมีเรือออกเวลา 9.30 , 13.30 , 15.30 น. (ท่าเรือสะพานใหม่)ไป-กลับ 120 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ท่าเรือนวลทิพย์ โทร. 0 3865 1508, 0 3865 1956

การเดินทางบน เกาะเสม็ด

บนเกาะมีถนนสายเดียวเป็นทั้งคอนกรีตบ้างสลับกับลูกรังและดิน สองแถวดูจะเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด อัตราค่าโดยสาร หาดทรายแก้วคนละ 10 บาท เหมา 100 บาท อ่าวไผ่คนละ 20 บาท เหมา 150 บาท อ่าวพร้าวอ่าววงเดือนคนละ 30 บาท เหมา 200 บาท อ่าวหวาย อ่าวเทียน 40 บาทต่อคน เหมา 300-400 บาท อ่าวกิ่วคนละ 50 บาท เหมา 500 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการจญภัยและสนใจมอเตอร์ไซต์เช่า ขับไม่คล่องอย่าลองจะดีกว่าเพราะสภาพถนนเป็นดินสลับหินและลาดชัน ราคาเริ่มต้น 300 บาทต่อวัน ขึ่นอยู่กับการต่อรอง

แผนที่เกาะเสม็ด

ราคาค่าโดยสารเรือจาก ท่าเรือนวลทิพย์ ไปเกาะเสม็ด
Ticket Price Nuanthip Pier to Samet Island
หน้าด่าน - หาดทรายแก้ว
Nadan Pier - Hadsaikaew
ไป-กลับ 100 บาท
อ่าววงเดือน
Ao VongDuean
ไป-กลับ 120 บาท
อ่าวหวาย
Ao Wai
ไป-กลับ 200 บาท
อ่าวพร้าว
Ao Phrao
ไป-กลับ 120 บาท
อ่าวกิ่ว-ปะการัง
Ao Kui-Pakarang
ไป-กลับ 200 บาท
เสม็ดคลิฟ
Samet Cliff
ไป-กลับ 120 บาท

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

การเดินทางไปอัมพวาและแผนที่

ตลาดน้ำอัมพวา การเดินทาง:

รถยนต์

จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ถนนพระราม 2 (ถนนธนบุรี-ปากท่อ เดิม) ไปถึงหลัก กม.ที่ 63 ชิดซ้ายใช้ทางคู่ขนานต่างระดับ เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม ถึงสี่แยกเลี้ยวขวา -เลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟ เลี้ยวขวาถึงสามแยกไฟแดงเลี้ยวซ้ายวิ่งตรงไปประมาณ 6 กม. ถึงสามแยกอัมพวาชิดซ้ายเข้าอัมพวา วิ่งตรงผ่านตลาดอัมพวา
ข้ามสะพานคลองอัมพวา(สะพานเดชาดิศร) ซุ้มประตูวัดทางเข้าอยู่ซ้ายมือ

รถโดยสารประจำทาง

จากสถานีขนส่งสายใต้
- รถสาย 76 กทม.-ดำเนินสะดวก เป็นรถปรับอากาศผ่านจังหวัดจังหวัดสมุทรสงครามถึงตลาดอัมพวา เดินผ่านตลาด ข้ามคลองอัมพวา ตรงไปถึงวัด
- สาย 967 กทม.-สมุทรสงคราม ถึงสถานีขนส่งสมุทรสงคราม ขึ้นรถประจำทางสาย 333 แม่กลอง-อัมพวา-บางนกแขวก ผ่านหน้าวัด


ที่เที่ยวอัมพวา

ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม


เป็นตลาดริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม (จอดรถที่วัดอัมพวันเจติยารามได้) ทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ ในช่วงเวลาเย็นตั้งแต่ช่วงเวลา 15.00 - 21.00 น. ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ และมีรถเข็นขายของบนบกด้วย บรรยากาศสบาย ๆ มีเพลงฟัง จากเสียงตามสายของชาวชุมชน ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทาน


วัดจุฬามณี



เป็นวัดโบราณริมฝั่งคลองอัมพวา ต่อเนื่องกับคลองผีหลอก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัชกาลพระเจ้าปราสาททอง สันนิษฐานว่า ท้าวแก้วผลึก (น้อย) นายตลาดบางช้าง ต้นวงศ์ราชินีกุลบางช้างเป็นผู้สร้างขึ้นบริเวณหลังวัด เดิมเป็นนิวาสสถานของคุณนาค และคุณบุญรอด (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ และสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2)


วัดอัมพวันเจติยาราม



อยู่ติดกับอุทยาน ร. 2 เป็นวัดของตระกูลราชินิกุลบางช้าง สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระรูป ศิริโสภาค มหานาคนารี พระชนนีของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ หลังวัดนี้ก็เคยเป็นนิวาสสถานเก่า ของหลวงยกกระบัตร และคุณนาค เชื่อกันว่าบริเวณพระปรางค์ของวัดอัมพวันฯ เดิมเป็นเรือนที่คุณนาค ใช้เป็นที่คลอดคุณฉิมบุตรชาย ซึ่งต่อมาได้เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ต่อมา วัดอัมพวันฯ ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันวัดอัมพวันเจติยารามเป็นพระอารามหลวงชั้นโท พระอุโบสถตลอดจนถาวรวัตถุ ในวัดอัมพวันฯ นี้ ส่วนใหญ่เป็นศิลปะ และสถาปัตยกรรมในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งนับเป็น


อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย(อุทยาน ร.2)



เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการสนอง พระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้พระราชทานศิลปวัฒนธรรมอันงดงามไว้เป็นมรดกแก่ชาติ บริเวณที่ก่อสร้างอุทยานพระบรมราชานุสรณ์นี้ พระราชสมุทรเมธี เจ้าอาวาสวัดอัมพวันเจติยารามเป็นผู้น้อมเกล้าฯ ถวาย มีทั้งหมด 11 ไร่ ซึ่งที่บริเวณนี้มีความสำคัญเพราะเป็นที่พระราชสมภพของรัชกาล ที่ 2
ภายในอุทยานพระบรมราชานุสรณ์ มีสิ่งที่น่าสนใจได้แก่ พิพิธภัณฑ์พระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นอาคาร ทรงไทย 4 หลัง จัดแสดงศิลปวัตถุในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ความเป็นอยู่ของชาวไทยในสมัยรัชกาลที่ 2 มีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ หอกลาง ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 2 และโบราณวัตถุ หอนอนชาย แสดงให้เห็นลักษณะความเป็นอยู่ของชายไทย หอนอนหญิง แสดงให้เห็นลักษณะความเป็นอยู่ของหญิงไทยโบราณ ชานเรือน จัดแสดงตามแบบบ้านไทยโบราณ ห้องครัว และห้องน้ำ แสดงลักษณะครัวไทย และห้องน้ำของชนชั้นกลาง นอกจากนี้ยังมีโรงละครกลางแจ้ง สวนพฤกษ-ชาติ เป็นสวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีนานาชนิด และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และผลไม้
การเดินทาง ไปอุทยานฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (สายธนบุรี-ปากท่อ) ถึงกิโลเมตรที่ 63 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 325 ประมาณ 6 กิโลเมตร (ผ่านตัวเมืองสมุทรสงคราม) มีทางแยกซ้ายไปอุทยานอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จากตัวเมืองมีรถประจำทางสายบางมูลนากผ่าน ขึ้นรถได้ที่ตลาดเทศบาลเมือง อุทยานฯ และพิพิธภัณฑ์ เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชม เด็ก 5 บาท ผู้ใหญ่ 10 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. (034) 751-367, 751666

ประวัติศาสตร์อัมพวา

ประวัติศาสตร์อัมพวา





อัมพวา ด้วยเหตุที่อำเภออัมพวาเป็นสถานที่สำคัญ และเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์อยู่มาก สมัยก่อนเรียกกันว่า "แขวงบางช้าง" เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่มีความเจริญทั้งในด้านการเกษตร และการพาณิชย์ มีหลักฐานเชื่อได้ว่า ในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองนั้น แขวงบางช้างมีตลาดค้าขายเรียกว่า "ตลาดบางช้าง" นายตลาดเป็นหญิงชื่อน้อย มีบรรดาศักดิ์เป็นท้าวแก้วผลึก นายตลาดผู้นี้อยู่ในตระกูลเศรษฐีบางช้างซึ่งต่อมาเป็นราชนิกุล "ณ บางช้าง"

เมื่อ พ.ศ. 2303 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัชสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ โปรดเกล้าฯ ให้นายทองด้วง (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก) เป็นหลวงยกกระบัตร เมืองราชบุรี ซึ่งเป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงศรีอยุธยา ต่อมาหลวงยกกระบัตรได้แต่งงานกับคุณนาคบุตรีเศรษฐีบางช้าง และได้ย้ายบ้านไปอยู่หลังวัดจุฬามณี ต่อมาเมื่อไฟไหม้บ้านจึงได้ย้ายไปอยู่ที่หลังวัดอัมพวันเจติยาราม อีก 3 ปี

เมื่อ พ.ศ. 2310 พม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตก หลวงยกกระบัตรจึงตัดสินใจอพยพครอบครัวเข้าไปอยู่ในป่าลึก ในระหว่างนี้ ท่านแก้ว (สมเด็จกรมพระศรีสุดารักษ์) พี่สาวของหลวงยกกระบัตร ได้คลอดบุตรหญิงคนหนึ่งตั้งชื่อว่า "บุญรอด" (ต่อมาได้เป็นสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ 2) ครั้งเมื่อพระยาวชิรปราการได้รวบรวมกำลังขับไล่พม่าออกไปหมดแล้ว ได้สถาปนาขึ้นเป็นพระเจ้าตากสิน หลวงยกกระบัตรจึงได้อพยพครอบครัวกลับภูมิลำเนาเดิมในช่วงนี้เอง คุณนาคก็ได้คลอดบุตรคนที่ 4 เป็นชาย ชื่อฉิม (พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) หลังจากนั้น หลวงยกกระบัตร ก็ได้กลับเข้ารับราชการอยู่กับพระเจ้าตากสิน ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระราชวรินทร์เจ้ากรมพระตำรวจนอกขวา จนกระทั่งเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ต้นราชวงศ์จักรี คุณนาค ภรรยาก็ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ คุณสั้น มารดาคุณนาค ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระรูปศิริโสภาคมหานาคนารี

แต่เนื่องจากสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ทรงเป็นคนพื้นบ้านบางช้างมาก่อน จึงมีพระประยูรญาติที่สนิท ประกอบอาชีพทำสวนต่าง ๆ อยู่ที่บางช้างนี้มาก เมื่อได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จพระอมรินทรามาตย์จึงนับเป็นราชินิกุล บางช้าง พระประยูรญาติจึงเกี่ยวดองเป็นวงศ์บางช้างด้วย และสมเด็จพระอมรินทร์ฯ มักทรงเสด็จเยี่ยมพระประยูรญาติเสมอ จึงมีคำเรียกว่า "สวนนอก" คือ สวนบ้านนอก ที่เป็นของวงศ์ราชินิกุลบางช้าง ส่วนบางกอก ซึ่งเป็นส่วนของเจ้านายในราชวงศ์ก็เรียกว่า "สวนใน" มีคำกล่าวว่า "บางช้างสวนนอก บางกอกสวนใน" จนถึงสมัยรัชกาลที่ 4 จึงยกเลิกไป

คำขวัญจังหวัดสมุทรสงคราม: เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร 2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

หัวหิน

แผนที่ไปหัวหิน











หาดหัวหิน








ชายหาดอันเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักตากอากาศที่มีชื่อเสียงแห่งแรกของเมืองไทย ด้วยน้ำทะเลใส ทรายสะอาด และมีม้าให้ขี่ด้วยจึงเป็นที่ใฝ่ฝันและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว


เขาตะเกียบ






มีวัดตั้งอยู่บนภูเขาซึ่งยื่นออกไปในทะเล ตั้งอยู่ห่างตัวเมืองทางทิศใต้ 6 ก.ม. ภายในบริเวณวัดร่มรื่น เย็นสบาย มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอินประดิษฐานอยู่ เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอ่าวหัวหินที่งดงามมากจุดหนึ่ง รอบเขาตะเกียบนี้มีที่พักและร้านอาหารให้บริการหลายแห่ง ยังมีภูเขาลูกเล็กๆ 2 ลูก อยู่ใกล้กัน ห่างจากหัวหินไปทางใต้ประมาณ 14 ก.ม. เขาตะเกียบมีโขดหินที่ยื่นออกไปในทะเล มีความสวยงานเหมาะกับการพักผ่อนและมีจุดชมวิว


เพลินวาน







คำว่า เพลินวานมาจาก ''Play and Learn'' และคำในวันวาน ''จากจุดเริ่มต้นที่มาจากความรักและคิดถึงหัวหินในวันก่อน เพลินวานจึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางจุดหมายการเดินทางแห่งใหม่ของคนหัวหินและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน'' เพลินวานคือ. . . ''ศูนย์รวมความสุข สถานที่. . . หยุดเวลาในอดีตไว้ เพื่อเล่าขานเรื่องราวมากมายของวิถีหัวหินกาลก่อน. . .สู่กาลปัจจุบัน''


ตลาดโต้รุ่ง





ตลาดโต้รุ่งหัวหิน เป็นตลาดกลางถนนเดชานุชิต ที่ปิดถนนไม่ให้รถผ่านเพื่อทำเป็นถนนคนเดิน หรือ เรียกได้ว่าทำเป็นตลาดให้คนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวชาวไทย เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองจากทั่วประเทศ อาหารไทย เช่น ผัดไทย หอยทอด กระเพาะปลา หมูสะเต๊ะ ซีฟู๊ด อาหารหวานก็มี โรตี ไอศกรีม ขนมไทย ผลไม้ นอกจากนี้ยังมีขายเสื้อผ้า กระเป๋า นิตยสาร ซีดีหนัง งานหัตถกรรม ภาพวาด โคมไฟ เป้นสีสันยามราตรีของหัวหิน ประมาณ 4 โมงเย็นของทุกวัน ซึ่งกว่าจะครบทุกร้านก็ราวๆ 5 โมงครึ่ง ก็จะเปิดขายเรื่อยไปจนตลาดวายประมาณ 5 ทุ่ม นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ว่าชาวไทย หรือต่างชาติ ที่เดินทางมาหัวหิน ต้องมาทานอาหารเย็น ขนมหวาน และจับจ่ายซื้อของที่ระลึกมากมาย ที่มีให้เลือกทานนับไม่ถ้วน อาจกล่าวได้มาหัวหินแล้วต้องมาเดินที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน





























































































































































































































































































วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

แผนที่ไป Silver lake



Silver lake








About SilverLake

ซิลเวอร์เลค(Silverlake) กำลังเป็นไรองุ่นที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและต่างชาติ เป็นไร่องุ่นทำไวน์แห่งเดียวในภาคตะวันออก จากความรักไวน์ของ คุณสุรชัย ตั้งใจตรง และภรรยา คุณสุพรรษา เนื่องภิรมย์ ซึ่งคุณสุรชัยได้เล่าถึงความเป็นมาให้ฟังว่า ''ซิลเวอร์เลค เริ่มจากผลและภรรยาได้เดินทางไปอิตาลี มีโอกาสเที่ยวชมไร่องุ่นหลายแห่ง ประกอบกับส่วนตัวชอบดื่มไวน์อยุ่แล้ว จึงเริ่มมีความคิดที่จะปลูกองุ่นในเมืองไทย ต่อมาไปเยี่ยมลูกชายที่กำลังศึกษาอยู่ที่อเมริกา ได้รู้จักกับคุณ จอห์น และคุณแซนตี้ อาร์น เจ้าของและไวน์เมกเกอร์ Arn's Winery ใน นาปา วัลเลย์ จึงเชิญทั้งคู่มาดูที่ดินที่ซื้อเก็บไว้นานแล้ว โดยคุณจอห์นได้นำตัวอย่างดินกลับไปวิเคราะห์ ที่สหรัฐอเมริกา ปรากฏว่าสามารถปลูกองุ่นได้ จึงตัดสินใจทำ ไร่องุ่นในปี พ.ศ. 2545''

ที่มีของชื่อซิลเวอร์เลค

คุณสุรชัย ตั้งใจตรงได้เล่าให้ฟังว่า ''มาจากเย็นวันหนึ่งผลกำลังยืนมองอ่างเก็บน้ำห้วยตู้ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับไร่องุ่น ตอนนั้นพระอาทิตย์กำลงัจะลับขอบฟ้าจึงส่องแสงลงมาสะท้อนระยิบระยับกับผิวน้ำของอ่างเก็บน้ำดังกล่าวเป็นสีเงินแวววาว สวยงามมาก จึงตั้งชื่อว่า Silverlake หมายถึงทะเลสาบสีเงิน ซึ่งมีความเป็นสากลและง่ายต่อการจดจำ''